สหรัฐปัด ไม่ร่วมอิสราเอลโจมตีเอาคืนอิหร่าน จี7 ออกแถลงการณ์ร่วมประณามเตหะราน

0

สำนักข่าวเอเอฟพีและเอพีรายงานว่า ทางการสหรัฐได้ออกมาระบุ เมื่อวันที่ 14 เมษายน ว่าจะไม่เข้าร่วมกับอิสราเอลในการโจมตีตอบโต้กลับอิหร่าน ภายหลังจากที่อิหร่านได้ส่งโดรนและขีปนาวุธกว่า 300 ลูกโจมตีอิสราเอลเมื่อกลางดึกวันที่ 13 เมษายน โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ได้เตือนนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ให้คิดอย่างรอบคอบถึงการขยายตัวของสงคราม

การโจมตีของอิหร่านเมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 12 ราย ตามรายงานของกองทัพอิสราเอล ถึงแม้ว่าอิสราเอลและประเทศอื่นๆ อย่าง สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และจอร์แดน จะสามารถยิงสกัดโดรนและขีปนาวุธของอิหร่านได้เกือบทั้งหมด ทั้งนี้ การโจมตีในครั้งนี้ของอิหร่านมีขึ้นเพื่อตอบโต้การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลใส่แผนกกงสุลของสถานทูตอิหร่านในกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ผู้บัญชาการระดับสูงของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่านเสียชีวิตด้วย 1 ราย

นายจอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาวสหรัฐ ได้กล่าวในรายการ Meet the Press ของสถานีโทรทัศน์ NBC ว่า เราไม่ได้ต้องการทำสงครามในวงกว้างกับอิหร่าน และสหรัฐไม่ต้องการที่จะเห็นสงครามขยายตัว

ถึงแม้ว่าเครื่องบินรบของสหรัฐจะสามารถยิงสกัดโดรนของอิหร่านราว 70 ลำ ขณะที่เรือของสหรัฐจะยิงสกัดขีปนาวุธทิ้งตัวของอิหร่านได้ระหว่าง 4-6 ลูก แต่เจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลสหรัฐยืนยันว่าไบเดนได้บอกกับนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูของอิสราเอล ว่าสหรัฐจะไม่ให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่อิสราเอลในการโจมตีตอบโต้กลับใดๆ ต่ออิหร่าน พร้อมกับบอกกับนายกรัฐมนตรีอิสราเอลอย่างชัดเจนว่า เราควรที่จะคิดให้รอบคอบและอย่างมีกลยุทธ์เกี่ยวกับความเสี่ยงที่สงครามจะขยายตัว

เจ้าหน้าที่ของสหรัฐระบุด้วยว่า ถึงแม้ว่าสหรัฐและอิสราเอลจะสามารถสกัดการโจมตีของอิหร่านได้เกือบทั้งหมด แต่อิหร่านมีเจตนาที่จะทำลายและทำให้มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึ่งหากอิหร่านประสบความสำเร็จในการโจมตี ก็อาจทำให้สงครามลุกลามบานปลายทั่วตะวันออกกลางอย่างควบคุมไม่ได้

ในระหว่างการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีไบเดนของสหรัฐ และนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูของอิสราเอล เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 13 เมษายน ผู้นำสหรัฐได้เร่งเร้าให้อิสราเอลออกมาประกาศชัยชนะจากความสามารถในการป้องกันตนเอง ในขณะที่ผู้นำสหรัฐต้องการที่จะโน้มน้าวอิสราเอลไม่ให้ทำการโจมตีตอบโต้อิหร่านครั้งใหญ่ไปมากกว่านี้ นอกจากนั้นแล้ว ประธานาธิบดีไบเดนยังได้โทรศัพท์พูดคุยกับสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอฮ์ที่ 2 แห่งจอร์แดน ในวันที่ 14 เมษายน ซึ่งกษัตริย์จอร์แดนตรัสว่า มาตรการใดๆ ที่จะขยายความขัดแย้งให้บานปลายไปมากกว่านี้ของอิสราเอล จะนำไปสู่ความขัดแย้งที่ขยายวงกว้างขึ้นในภูมิภาค และในช่วงสายวันเดียวกัน ผู้นำสหรัฐได้พูดคุยกับผู้นำในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา โดยเน้นย้ำความจำเป็นเร่งด่วนที่สภาล่างจะผ่านงบด้านสงครามเพิ่มเติมให้แก่อิสราเอลและยูเครน

กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ชาติ (จี7) ได้มีการประชุมผ่านทางวิดีโอเมื่อวันที่ 14 เมษายน และได้มีการออกแถลงการณ์ร่วมเพื่อประณามการโจมตีโดยตรงของอิหร่านอย่างถึงที่สุด และขอแสดงความเป็นหนึ่งเดียวและการสนับสนุนอิสราเอล พร้อมกับเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ จี7 ที่มีต่อความมั่นคงของอิสราเอล และผู้นำ จี7 บอกว่าพวกเขาพร้อมที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อตอบโต้ความคิดที่จะทำลายเสถียรภาพ

ขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า ประเทศสมาชิก จี7 บางชาติมีการพูดคุยกับการจัดให้กองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่านเป็นองค์กรก่อการร้าย รวมถึงการคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติม แต่ยังไม่มีการตัดสินใจในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *