บุ้ง ทะลุวัง เสียชีวิตแล้ว หลังอดอาหารประท้วง-ถูกคุมขังในเรือนจำเป็นวันที่ 110
ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ “บุ้ง” นักกิจกรรมทางการเมืองกลุ่มทะลุวัง ซึ่งอยู่ระหว่างถูกคุมขัง เสียชีวิตแล้ว หลังจากบุคคลใกล้ชิดแจ้งข่าวว่า มีอาการหัวใจหยุดเต้นและแพทย์ได้ปั๊มหัวใจ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ยืนยันกับบีบีซีไทยเมื่อเวลาประมาณ 12.40 น. ว่า น.ส.เนติพร เสียชีวิตแล้ว โดยขณะนี้ร่างอยู่ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
บุ้ง เนติพร อยู่ระหว่างถูกคุมขังหลังจากศาลอาญามีคำสั่งถอนประกันในคดีมาตรา 112 กรณีทำโพลเรื่องขบวนเสด็จ โดยเธอถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. 2567 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 110 วัน
นักกิจกรรมหญิงวัย 28 ปี รายนี้ เริ่มอดอาหารและน้ำประท้วงระหว่างที่ถูกคุมขังในวันที่สอง (27 ม.ค. 2567) ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ข้อเรียกร้องของเธอ ได้แก่ การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และต้องไม่มีคนเห็นต่างทางการเมืองถูกคุมขังอีก หลังจากอดอาหารไปได้ระยะหนึ่ง น.ส.เนติพร ได้ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2567
ก่อนหน้านี้ น.ส.เนติพร ได้ลงนามเอกสารแสดงเจตจำนงขอบริจาคร่างกาย และขอแสดงความประสงค์ไม่รับบริการสาธารณสุขเพื่อยื้อชีวิตไว้โดยไม่จำเป็นและเป็นการสูญเปล่า เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2567
จากรายงานจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งติดตามผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมือง ได้บันทึกการอดอาหารประท้วงของ น.ส.เนติพร ไว้ว่ามีการย้ายเข้าออกระหว่างสถานพยาบาล ทัณฑสถานหญิงกลาง โรงพยาบาลราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โดยบันทึกการส่งตัวล่าสุด เมื่อวันที่ 4 เม.ย. น.ส.เนติพร ถูกส่งตัวจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ กลับมาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์
รายงานจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่า ในปี 2567 มีผู้ต้องขังคดีการเมืองที่อดอาหารประท้วงในเรือนจำ อย่างน้อย 3 คน ได้แก่ บุ้ง เนติพร, ตะวัน ทานตะวัน ,แฟรงค์ ณัฐนนท์ โดย บัสบาส มงคล ยุติการอดอาหารไปเมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยเพียงสั้น ๆ ระหว่างปฏิบัติงานที่ จ.เพชรบุรีว่า ได้รับรายงานการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร แล้ว
รมว.ยุติธรรม ระบุว่า เบื้องต้นเพื่อให้เป็นไปตามหลักการของกฎหมาย จะต้องมีการชันสูตรพลิกศพก่อน โดยการทำงานร่วมกันของทางกรมราชทัณฑ์และแพทย์จากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อไม่ให้เกิดความคลางแคลงใจ และได้รายงานเรื่องนี้ให้กับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รับทราบแล้ว
ด้านองค์กรสิทธิมนุษยชนแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ระบุว่า การเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร เป็นเครื่องเตือนใจว่าทางการไทยกำลังปฏิเสธสิทธิของนักกิจกรรมในการได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว และได้ใช้การควบคุมตัวเพื่อปิดปากการแสดงความเห็นต่างอย่างสงบ พร้อมเรียกร้องให้ทางการสอบสวนการเสียชีวิตอย่างละเอียดและโปร่งใส เพื่อไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้อีก
“เหตุการณ์อันน่าสลดใจนี้น่าจะเป็นสัญญาณเตือนทางการไทยให้ปล่อยตัวนักปกป้องสิทธิมนุษยชนและนักเคลื่อนไหวทุกคนที่ถูกควบคุมตัวอย่างไม่ยุติธรรม และต้องเคารพสิทธิในการประกันตัว”
ราชทัณฑ์ชี้แจงการเสียชีวิต
กรมราชทัณฑ์ เผยแพร่เอกสารข่าวกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร หรือบุ้ง ต่อสื่อมวลชนเมื่อเวลา 13.30 น. ระบุว่า จากการรายงานของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ น.ส.เนติพร มีอาการหัวใจหยุดเต้นฉับพลัน เมื่อช่วงเช้าวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ทีมแพทย์ได้ทำการกู้ชีพ พร้อมนวดหัวใจ จากนั้นได้ส่งตัวออกรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
เอกสารข่าวระบุต่อไปว่า ทีมแพทย์ทั้งสองโรงพยาบาลได้พยายามกู้ชีวิตผู้ป่วยอย่างสุดความสามารถ ตั้งแต่เวลา 6.20-11.22 น. ร่างกายผู้ป่วยไม่ตอบสนองการรักษาและถึงแก่กรรมอย่างสงบในเวลา 11.22 น.
กรมราชทัณฑ์ ระบุด้วยว่า หลังจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ รับตัว น.ส.เนติพร จากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา น.ส.เนติพร ได้รับประทานอาหารและน้ำปกติ ซึ่งแพทย์และพยาบาลได้ทำการรักษาดูแลใกล้ชิดและต่อเนื่อง
“แต่ (น.ส.เนติพร) ยังมีอาการขาอ่อนแรงและบวมเล็กน้อย ผลเลือดมีภาวะโลหิตจางเล็กน้อย เกลือแร่ต่ำ โดย น.ส.เนติพร ปฏิเสธการรับประทานเกลือแร่และวิตามินบำรุงเลือด จนเกิดอาการดังกล่าวและเสียชีวิตในวันนี้”
กรมราชทัณฑ์ ระบุด้วยว่า เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและความเชื่อมั่น จึงให้ทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ทำการชันสูตร เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้ว