สุนัขจรจัดไทย “ใกล้ตาย” กับการเดินทางหมื่นกิโลเมตร สู่ชีวิตใหม่ในสหราชอาณาจักร

0

จากลูกหมาจรจัดบนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ที่มีสภาพใกล้ตาย ขนร่วง รอยแผลเต็มตัว มาวันนี้ “ร็อดนีย์” มีชีวิตใหม่ กลายเป็นสุนัขที่แข็งแรงและน่ารัก ใช้ชีวิตอยู่กับเจ้าของใหม่ในแคว้นเวลส์ของสหราชอาณาจักร

ร็อดนีย์ สุนัขจรจัดจากไทย และเจ้าของใหม่ของมันในแคว้นเวลส์ของยูเค

ตอนที่ ไนอัลล์ ฮาร์บิสัน ชาวไอร์แลนด์ พบเจ้าร็อดนีย์ ลูกสุนัขอายุเพียงไม่กี่สัปดาห์ ที่ข้างถนนในไทย เขาคิดว่า อีกไม่กี่ชั่วโมงมันคงตายแน่ ๆ เขาจึงช่วยมันไว้

ฮาร์บิสัน เผยแพร่เนื้อหาการช่วยเหลือเจ้าร็อดนีย์ ผ่านสังคมออนไลน์ของเขา ซึ่งวันหนึ่ง มีคนในแคว้นเวลส์ สหราชอาณาจักร เห็นการช่วยเหลือเจ้าร็อดนีย์ และพัฒนาการของมัน เลยขออุปการะมันมาอยู่ด้วยในไม่กี่เดือนต่อมา

“ฉันตกหลุมรักมันตั้งแต่แรกพบ” แครีส์ ฮอว์คีย์ เจ้าของใหม่ของเจ้าร็อดนีย์ บอกกับบีบีซี

ฮาร์บิสัน เกษียณอายุตัวเอง ย้ายมาอยู่ในประเทศไทย แต่เขาก็ประสบปัญหาสุขภาพจิตและติดสุรา เขาจึง “อยากทำอะไรที่มีความหมาย” จึงเริ่มจากการ “ให้อาหารสุนัขบนท้องถนน”

แต่เขาไม่คิดว่า สิ่งที่เขากำลังทำจะกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในเวลาต่อมา

“ผมอยากให้อาหารสุนัข 10,000 ตัวต่อเดือน”

ปัจจุบัน อินสตาแกรมของฮาร์บิสัน มีผู้เข้ามาติดตามมากกว่า 650,000 คน ทั้งเนื้อหาที่ตามหาผู้รับอุปการะสุนัข และเรื่องราวของการนำอาหารไปเลี้ยงสุนัข และช่วยเหลือพวกมันตามที่ต่าง ๆ

“ผมไม่อยากเข้าไปเล่นสังคมออนไลน์แล้วเห็นแต่ข่าวเศร้า ผมจึงพยายามสร้างตัวตนให้สุนัข ซึ่งทำให้มันมีความสุขมากขึ้น” เขากล่าว

เขามีภารกิจสำคัญในชีวิต คือ “การให้อาหารสุนัขจรจัดให้ได้ 10,000 ตัวต่อเดือน”

ไนอัลล์ ฮาร์บิสัน เป็นชาวไอร์แลนด์ ที่เกษียณมาอยู่เกาะสมุยของไทย

“ผมรักสุนัขมาตลอด มักให้อาหารมันตามที่ต่าง ๆ” ฮาร์บิสัน บอกกับบีบีซี

เขายังช่วยเหลือสุนัขที่บาดเจ็บและหาบ้านใหม่ให้พวกมัน โดยหนึ่งตัวสุนัขที่ผู้คนให้ความสนใจ คือ เจ้าร็อดนีย์ ซึ่งตอนที่เขาพบมันใหม่ ๆ “มันแทบไม่เหมือนสุนัข” และ “มันใกล้จะตายแล้ว”

เจ้าร็อดนีย์ เป็นสุนัขตัว 80 ที่เขาช่วยจากข้างถนน “ร็อดนีย์อาการแย่มาก มันอาจหมดลมหายใจได้ทุกเมื่อ” โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่วันแรกที่มันได้รับการช่วยเหลือมาจากถนน ตัวเขาเองยังไม่คิดว่ามันจะรอดชีวิต

แต่ “หลายเดือนผ่านไป มันสู้จนเติบโตเป็นสุนัขที่งดงามและน่ารัก มันเป็นนางฟ้าตัวน้อย ๆ ที่อ่อนโยน” เขาเล่าในโพสต์บนไอจี

หลังดูแลมันอย่างใกล้ชิดนาน 7 เดือน ร็อดนีย์ ฟื้นตัวเป็นอย่างดี และมีคนจากทั่วโลกกว่า 500 คนเสนออุปการะมัน

แครีย์ส ฮอว์คีย์ และแคเมรอน คลาร์ก จากหมู่บ้านเชิร์จวิลเลจ ในแคว้นเวลส์ เป็นหนึ่งในผู้เสนออุปการะเจ้าร็อดนีย์ และได้พามันไปอยู่ด้วยในที่สุด

“ตอนที่พบบัญชีของไนอัล ฉันเสพติดมันเลย” ฮอว์คีย์ ซึ่งมีอาชีพเป็นอาจารย์ กล่าว

แม้นางฮอว์คีย์สจะอยากได้สุนัขตัวที่สอง แต่คลาร์ก สามีของเธอ ยังไม่ปักใจเชื่อว่า ร็อดนีย์ จะเป็นสุนัขตัวนั้น แต่ทันทีที่เขาเห็นสุนัขจากประเทศไทย คลาร์ก รู้เลยว่า นี่เป็นสุนัขสำหรับพวกเขา

หมาไทยบินข้ามโลกสู่บ้านใหม่

กระบวนการอุปการะสุนัข สำหรับนางฮอว์คีย์ ถือว่ามีความสำคัญมาก เพื่อหาบ้านใหม่ให้สุนัขที่ถูกทอดทิ้ง และเมื่อทั้งคู่ทราบว่าจะได้อุปการะร็อดนีย์ นายคลาร์กจองตั๋วเครื่องบินมาประเทศไทยทันที

เจ้าร็อดนีย์ต้องต่อเครื่องบิน 2 ครั้ง ใช้เวลา 24 ชั่วโมง และเรียกรถโดยสารสำหรับสัตว์เลี้ยง จากกรุงปารีส ตรงยาวไปลอนดอน ก่อนจะพาขึ้นรถเดินทางไปบ้านหลังใหม่ รวมระยะทางเกือบ 10,000 กิโลเมตร จากเกาะสมุย ประเทศไทย

“มันเหมือนมันอยู่ที่นี่มานานแล้ว” นางฮอว์คีย์ กล่าว “มันไม่รู้หรอกว่า มันทำให้ฉันมีความสุขแค่ไหน”

แต่การพาสุนัขที่ถูกทอดทิ้ง ไปสู่บ้านใหม่ที่ห่างไกลนั้น ไม่ได้จบอย่างมีความสุขทุกครั้ง

ยกตัวอย่าง กรณีของ รอรี เซลลัน โจนส์ และภรรยา ไดแอน ที่พาสุนัขคือเจ้า “โซฟี” จากโรมาเนียกลับมาบ้าน แต่มันกลับบอบช้ำทางจิตใจเป็นระยะเวลานาน จากการต้องเดินทางไกล

รอดนีย์มีชีวิตใหม่ในต่างแดน แม้ต้องเดินทางไกลถึง 10,000 กิโลเมตร

ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ประเมินว่า มีสุนัขจรจัดกว่า 200 ล้านตัวทั่วโลก

“มีสุนัขจรจัดในไทยกว่า 8 ล้านตัว เป้าหมายของผมคือช่วยทำให้จำนวนมันลดลง” ฮาร์บิสัน เล่าถึงความฝันของเขา แต่ก็ยอมรับว่า ทุกภาคส่วนต้องเข้ามาช่วยเหลือ รวมถึงรัฐบาลด้วย โดยเฉพาะในเรื่องของการทำหมัน และย้ำว่า การส่งสุนัขจรจัดไปให้คนอุปการะในต่างแดน ไม่ใช่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน

“ผมใกล้จะจัดตั้งมูลนิธิในไทยเสร็จแล้ว และได้รับการยืนยันจัดตั้งมูลนิธิในสหราชอาณาจักร ผมจะได้จ้างคนมากขึ้นให้มาช่วยกัน” ฮาร์บิสัน กล่าว

เป้าหมายต่อไปของเขา คือ การสร้างโรงพยาบาลสำหรับสุนัขป่วยบนเกาะสมุย ซึ่งจะตั้งชื่อตามสุนัขที่ฮาร์บิสันได้ช่วยเหลือ และประทับใจคนทั่วโลก นั่นคือ สุนัขพันธุ์โกลเดนรีทรีฟเวอร์ ชื่อ “ทีนา” ที่เคยถูกล่ามโซ่ และใช้เพื่อเพาะพันธุ์ มาวันนี้ มันกลายเป็นเรื่องราวเชิงบวก ที่สร้างความรู้สึกดี ๆ ให้ผู้คนผ่านคอนเทนต์ที่เขาเผยแพร่

“ผมรู้สึกว่าทีนาได้ช่วยผู้คนมากกว่าที่ผมคาดคิดไว้” ฮาร์บิสัน กล่าว

“ชีวิตของมันจะไม่สูญเปล่า”

REF: BBCTHAI

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *