รัสเซียโหมโจมตีเคอร์ซอน-ยูเครนตั้งการ์ดรับมือโดรนบุกช่วงหน้าหนาว
มีรายงานผู้บาดเจ็บหลายสิบคน รวมทั้งเด็กอายุเพียง 9 เดือน จากเหตุโจมตีโดยรัสเซียในเคอร์ซอน ทางตอนใต้ของยูเครน ตามการเปิดเผยของผู้ว่าการเขตปกครองเคอร์ซอนเมื่อวันอาทิตย์
โอเล็กซานเดอร์ โปรกูดิน ผู้ว่าการเขตปกครองเคอร์ซอน เผยผ่านแอปพลิเคชันเทเลแกรมว่า “เขตปกครองเคอร์ซอนเผชิญกับค่ำคืนอันเลวร้ายอีกคืน” พร้อมรายงานเหตุหญิงวัย 27 ปีและเด็กอายุ 9 เดือนที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล จากเหตุโจมตีโดยกองทัพรัสเซียในเคอร์ซอน และมีรายงานบ้านเรือนและท่อส่งก๊าซเสียหายจากเหตุโจมตีครั้งนี้ด้วย
ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียระดมโจมตี 59 ครั้งในเขตปกครองเคอร์ซอน รวมถึงการระเบิด 19 จุดในเมืองเคอร์ซอน ที่เป็นที่ตั้งของสำนักงานของฝ่ายบริหารท้องถิ่นต่าง ๆ
ทางรอยเตอร์ไม่สามารถยืนยันรายงานเหล่านี้ได้ และยังไม่มีความเห็นใด ๆ จากฝั่งรัสเซียในช่วงเวลาที่รายงานข่าวนี้ โดยที่ผ่านมาทั้งรัสเซียและยูเครนต่างปฏิเสธเรื่องการโจมตีที่มุ่งเป้าประชาชน แต่ประชาชนยูเครนถูกสังหารจำนวนมากจากการโจมตีที่เข้าทำลายชุมชนที่อยู่อาศัยและแหล่งพลังงาน หน่วยงานด้านกลาโหม ท่าเรือ และโครงสร้างพื้นฐานพลเรือนต่าง ๆ
ยูเครนเตรียมรับการโจมตีด้วยโดรนรัสเซียครั้งใหญ่ในฤดูหนาวปีนี้
กองทัพอากาศยูเครนคาดว่าจะต้องเตรียมรับมือกับการโจมตีด้วยโดรนบนแผ่นดินยูเครนเป็นจำนวนที่สูงสุดเป็นสถิติใหม่ช่วงปลายปีนี้ ระหว่างที่รัฐบาลกรุงเคียฟเตรียมการสำหรับฤดูหนาวปีที่ 2 ที่ต้องเผชิญกับการระดมโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครน
โฆษกกองทัพอากาศยูเครน ยูริ อิห์นัต เปิดเผยในวันอาทิตย์ว่า ข้อมูลจากเดือนกันยายนแสดงให้เห็นการใช้โดรนกามิเกเซ่ ชาเฮด ที่ออกแบบโดยอิหร่าน ในปริมาณที่สูงเกินสถิติเดิมเมื่อปีที่แล้ว โดยกล่าวว่า “ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวปีนี้ … สร้างสถิติใหม่ในแง่ของจำนวนโดรนชาเฮด โดยพบมากกว่า 500 ลำเมื่อเดือนกันยายนไปแล้ว”
โฆษกกองทัพอากาศยูเครน เปรียบเทียบตัวเลขดังกล่าวกับการโจมตีเมื่อปีก่อน ที่มีการใช้โดรนชนิดนี้ราว 1,000 ลำเข้าโจมตียูเครนในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว
แม้ว่ายูเครนจะยกระดับการป้องกันภัยทางอากาศมากกว่าปีก่อน แต่ทางการยูเครนได้เตือนว่าความเสี่ยงที่เหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวจะเกิดขึ้นซ้ำรอยได้ เพราะการโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานเมื่อปีที่แล้ว ได้สร้างความเสียหายแก่ระบบไฟฟ้ายูเครน และทำให้หลายเมืองต้องจำกัดการใช้ไฟฟ้าและน้ำร้อนในช่วงเวลาดังกล่าว