รัสเซียเหี้ยมรัวขีปนาวุธ 75 ลูก ถล่มยูเครน ดับแล้วอย่างน้อย 5 บาดเจ็บจำนวนมาก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัสเซียรัวยิงขีปนาวุธนำวิถี 75 ลูก โจมตีหลายพื้นที่ทั่วประเทศยูเครน รวมถึงกรุงเคียฟ อันเป็นเมืองหลวงในช่วงเช้าของวันที่ 10 ตุลาคมนี้ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้พลเรือนถูกสังหารชีวิต และระบบโครงสร้างพื้นฐานพลเรือนถูกทำลายพินาศย่อยยับ ที่ดูเหมือนจะเป็นการแก้แค้นเอาคืนของรัสเซีย หลังเกิดเหตุระเบิดบนสะพานไครเมีย ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมสำคัญระหว่างดินแดนไครเมียที่รัสเซียผนวกเป็นของตนเองในปี 2014 กับแผ่นดินใหญ่ของรัสเซีย ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ (8 ต.ค.) ที่ผ่านมา ซึ่งประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย ชี้ว่าเป็นการก่อการร้ายของยูเครน
ในกรุงเคียฟ ที่แทบจะไม่ถูกโจมตีหนักจากรัสเซียมานานนับจากที่กองกำลังรัสเซียพยายามจะบุกยึดกรุงเคียฟให้ได้ในช่วงต้นของการทำสงครามรุกรานยูเครนนั้น ในวันเดียวกันนี้สถานการณ์เต็มไปด้วยความโกลาหล รถหลายคันมีไฟลุกท่วมกลางสี่แยก สวนสาธารณะและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญใจกลางเมืองถูกทำลายเสียหายจากการถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซีย
เฉพาะในกรุงเคียฟ ตำรวจรายงานเบื้องต้นว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุโจมตีในวันนี้แล้วอย่างน้อย 5 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 12 ราย โดยยังมีภาพสุดสยองของศพชายผู้โชคร้ายรายหนึ่งที่อยู่ในสภาพเลือดท่วมร่าง ไร้ศีรษะ นอนตายอยู่กลางสี่แยก ที่มีรถหลายคันไฟลุกท่วมอยู่ ขณะที่สนามเด็กเล่นใจกลางกรุงเคียฟ ปรากฏหลุมขนาดใหญ่จากการถูกยิงโจมตีด้วยขีปนาวุธ
นอกจากนี้ยังมีรายงานเกิดเหตุระเบิดขึ้นหลายจุดในเมืองลวิฟ เมืองเทอร์โนปิล และซีโตมีร์ ทางตะวันตกของยูเครน รวมถึงเมืองดนีโปรและเครเมนชุก ทางตอนกลาง เมืองซาปอริซเซีย ทางตอนใต้ และเมืองคาร์คีฟ ทางตะวันออกของยูเครน
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ออกมากล่าวในทันทีว่า การโจมตีในช่วงเวลาเร่งด่วนที่เกิดขึ้นดูเหมือนเป็นความจงใจที่จะสังหารผู้คน และโพสต์บนเทเลแกรมว่า พวกเขากำลังพยายามทำลายเราและกวาดล้างเราออกจากโลก ผู้นำยูเครนชี้ว่าการโจมตีดังกล่าวมี 2 เป้าหมายหลัก คือ โครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานและผู้คน
ขณะที่กระทรวงกลาโหมยูเครนแถลงว่า รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธ 75 ลูกโจมตียูเครน โดยระบบป้องกันทางอากาศของยูเครนยิงสกัดไว้ได้ 41 ลูก
นายโจเซฟ บอร์เรล หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวว่า รู้สึกช็อกมากกับโจมตีกรุงเคียฟและเมืองอื่นๆ ในยูเครนของรัสเซีย การกระทำเช่นนี้ไม่มีที่ยืนในศตวรรษที่ 21 ตนขอประณามการกระทำนี้อย่างแข็งกร้าวที่สุด และว่า เรายืนหยัดเคียงข้างยูเครน นอกจากนี้ความสนับสนุนทางทหารเพิ่มเติมจากอียูแก่ยูเครนยังกำลังดำเนินไป
ยังไม่มีท่าทีจากรัสเซียถึงเป้าหมายการโจมตีล่าสุด โดยรัสเซียปฏิเสธถึงการจงใจพุ่งเป้าหมายไปที่พลเรือน
หลายชาติออกมาประณามการโจมตียูเครนล่าสุดของรัสเซีย โดยนายเจมส์ คลีฟเวอร์ลี รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ทวีตว่า “การยิงขีปนาวุธโจมตีพลเรือนในยูเครนของรัสเซีย เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของปูติน ไม่ใช่ความแข็งแกร่ง”
ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศของโปแลนด์ ทวีตประณามว่า เป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนและเป็นอาชญากรรมสงคราม รัสเซียไม่สามารถชนะสงครามนี้ได้ เรายืนหยัดสนับสนุนยูเครน
